BigPay เลือก Thredd เป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนบริการชำระเงิน
- BigPay
- มีแผนขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เน้นการให้บริการภาคอุตสาหรรมท่องเที่ยวในอาเซียน
- Thredd
- เป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคที่ได้รับการยอมรับจากตลาดในเอเชียแปซิฟิกตลอดปี 2023 โดยมีอัตราการเติบโตทางรายได้ที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากความต้องการเทคโนโลยีการชำระเงินในด้านการชำระเงินแบบดิจิทัลที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยคาดการณ์ว่าบริษัทจะปลดล็อกเป้ารายได้ถึง 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั่วเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2025 ในธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และกลุ่มตลาดผู้บริโภครายบุคคล (consumer segments)
BigPay บริษัทฟินเทคซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอปบริการทางการเงินชั้นนำจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เลือกแพลตฟอร์มผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ยุคใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว Thredd เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถในการชำระเงิน โดยมีแผนขยายธุรกิจของ BigPay ในประเทศไทยและขยายสู่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ในต้นปี 2024
ปัจจุบัน BigPay เป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคแบบครบวงจรทั้งในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ และมีผู้ใช้งานบัตรมากกว่า 1.4 ล้านคน ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ การชำระเงิน การโอนเงินระหว่างประเทศ การประกันภัยรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล การวิเคราะห์การใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายยกระดับบริการด้านการเงินแก่ผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทุกๆการทำธุรกรรม BigPay ยังมีคุณสมบัติ “Stashes and Round-ups” ที่สนับสนุนพฤติกรรมการออมผ่านการตั้งเป้าหมายการออมเงิน และช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับบริการด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้นผ่านการช่วยเก็บเงินโดยการปัดเศษเงินทอนของการทำธุรกรรมในแต่ละรายการ
นอกเหนือจากแผนการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคแล้ว BigPay ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ airasia superapp เพื่อเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงินสำหรับการจองการเดินทางบนแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย ผลิตภัณฑ์ของ BigPay จะได้รับการปรับแต่ง ติดตั้ง และพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ผ่านแอปพลิเคชั่น airasia superapp เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่าน BigPay เพื่อจองเที่ยวบิน โรงแรม และอื่นๆ ได้อย่างสะดวกหลังจากเชื่อมโยงบัญชีแล้ว
“เนื่องจากเรามีแผนเตรียมนำ BigPay เข้าสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงต้องการพันธมิตรทางเทคโนโลยีการชำระเงินที่เข้าใจดีเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินดิจิทัลและความซับซ้อนของภูมิภาคนี้” มิเทอพอล สินหนุ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ BigPay กล่าวว่า “เทคโนโลยีการชำระเงินออนไลน์ของ Thredd มีชื่อเสียงในด้านความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่น รวมทั้งมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น generative AI จึงนับเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียในฐานะผู้เชี่ยวชาญการขับเคลื่อนบริการทางการเงินแบบบูรณาการ หรือ ‘Embedded finance’ ภายใต้ระบบนิเวศทางการเงินแบบใหม่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง BigPay”
“การผนึกกำลังทางการเงินครั้งนี้คาดว่าจะปลดล็อกรายได้เป็นมูลค่าถึง 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ในธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และกลุ่มตลาดผู้บริโภครายบุคคล (consumer segments)” แดเมียน กอฟ ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Thredd กล่าวว่า “โซลูชัน อย่าง BigPay เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลนี้ ในการนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ระบบบริการทางการเงินที่เชื่อมโยงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคน เราตั้งตารอที่จะบูรณาการเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Thredd เข้ากับแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง BigPay เพื่อผนึกกำลังกันพร้อมรับการขยายตัวทั่วทั้งภูมิภาค”
Thredd เติบโตเป็นประวัติการณ์ทั่วเอเชียแปซิฟิกตลอดปี 2023 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยการขับเคลื่อนผ่านโปรแกรมและบริการบัตรที่ให้บริการลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค Thredd ครอบคลุมบริการในด้านการเงินที่สำคัญ การจัดการค่าใช้จ่ายขององค์กร และการให้บริการบนมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ผ่านการให้บริการลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกจากสำนักงานในสิงคโปร์และออสเตรเลีย
BigPay
BigPay เป็นบริษัทฟินเทคชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการเงินที่มีความจำเป็นต่อชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเน้นการให้บริการทางการเงินดิจิทัลที่เข้าถึงได้ โปร่งใส ใช้งานง่าย และปลอดภัย ตั้งแต่การชำระเงินข้ามพรมแดน การชำระเงินภายในประเทศ ไปจนถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ เครดิต การประกันภัยรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล และการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่ชาญฉลาด เรายังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับชีวิตผู้คนชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการทำธุรกรรมการเงินในแต่ละครั้ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://bigpayme.com/
BigPay เป็นบริษัทหนึ่งภายใต้ MOVE Digital ซึ่งเป็นหน่วยงานดิจิทัลของ Capital A Berhad เช่นเดียวกับ airasia MOVE (เดิมชื่อ airasia Superapp)
Thredd
Thredd เป็นพันธมิตรด้านการชำระเงินแห่งอนาคตที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจที่ต้องการบริการด้านการชำระเงินทั่วโลกที่ทันสมัย เราประมวลผลธุรกรรมเดบิต การเติมเงิน และบัตรเครดิตนับพันล้านรายการต่อปี โดยให้บริการฟินเทค ธนาคารดิจิทัล และผู้ให้บริการทางการเงินแบบฝังตัวมากกว่า 100 ราย ตั้งแต่ผู้บริโภคไปจนถึงองค์กร ใน 44 ประเทศ
ข้อเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของ Thredd คือแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งผสมผสานการสนับสนุนแบบลงมือจริงเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เชื่อถือได้ และปรับเปลี่ยนได้ โซลูชั่นของ Thredd จะช่วยเร่งการพัฒนาและการส่งมอบบริการการชำระเงินสำหรับผู้บริโภคและองค์กรที่อยู่ภายใต้ธนาคารดิจิทัล เช่นเดียวกับการจัดการค่าใช้จ่าย การชำระเงินระหว่างธุรกิจ การเข้ารหัสลับ การให้กู้ยืม เครดิต ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (“BNPL”) FX การโอนเงิน และผู้สร้างนวัตกรรมด้านการธนาคารแบบเปิด ด้วยการร่วมมือกับลูกค้าของเราตั้งแต่แนวความคิดไปจนถึงการสร้างสรรค์โซลูชันที่ปรับจูนได้ง่ายของเรา เราช่วยให้ผู้นำธุรกิจเหล่านี้มีความคล่องตัวในการบรรลุแรงบันดาลใจทางธุรกิจหลักของพวกเขา
Thredd เป็นผู้นำตลาดมาตั้งแต่ปี 2007 และเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้สูงและมีความพร้อมใช้งาน 99.99% โซลูชันที่ปรับแต่งได้สูงของ Thredd อยู่บนแพลตฟอร์มที่ใช้ API เป็นหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเชิงลึก บริการเสริม ความครอบคลุม และความยืดหยุ่นทางเทคนิค ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับขนาดได้อย่างง่ายดาย Thredd ได้รับการรับรองจาก Visa และ Mastercard ในการประมวลผลธุรกรรมทั่วโลก และมีสำนักงานในลอนดอน นิวคาสเซิล สิงคโปร์ และซิดนีย์ โดยมีพนักงานกระจายทำงานอยู่ทั่วโลก